ชีวิตของผู้นำประเทศหลายคนในประวัติศาสตร์โลก มักเป็นไปในลักษณะของการไต่เต้าจากจุดต่ำที่สุดแล้วทะยานขึ้นสู่จุดสูงสุด นั่นรวมถึงผู้นำคนล่าสุดของไต้หวันอย่าง “ไล่ ชิงเต๋อ” ที่ล่าสุดรับเลือกเป็นประธานาธิบดีไต้หวันคนใหม่ด้วยในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 13 ม.ค. ที่ผ่านมา
ชีวิตของ ไล่ ชิงเต๋อ เริ่มจากการเติบโตมาในครอบครัวที่ยากจน สำเร็จการศึกษากลายเป็นแพทย์ และสุดท้ายก้าวเข้าสู่เส้นทางการเมืองโดยมีวิกฤตการณ์ทางทหารในช่องแคบไต้หวันเมื่อ 27 ปีที่แล้วเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ
จับตาความสัมพันธ์จีนหลัง ไล่ ชิงเต๋อ ประกาศชัยชนะประธานาธิบดีไต้หวัน
จีนย้ำผลเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวัน ไม่กระทบสัมพันธ์คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง!
"ไล่ ชิงเต๋อ" คว้าชัย ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวัน 2024
แม้แต่ตัวของไล่เองก็ยอมรับว่า เส้นทางชีวิตของเขาตั้งแต่แรกจนถึงปัจจุบัน เป็นการเดินทางที่ “ไม่คาดคิด”
ไล่เล่าว่า ตอนเด็ก เขาอยู่ในครอบครัวแรงงานเหมืองแร่ ทางตอนเหนือของเกาะไต้หวัน และมีความฝันอยากจะเป็นแพทย์มาโดยตลอด เขามีพี่น้อง 5 คน และแม่ต้องเลี้ยงพวกเขามาโดยลำพัง เพราะพ่อซึ่งเป็นแรงงานขุดเหมืองถ่านหินประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตระหว่างปฏิบัติงาน
ไล่บอกว่า เขาจำพ่อแทบจะไม่ได้ เพราะพ่อจากไปตั้งแต่เขายังเล็ก “แต่วันหนึ่ง จู่ ๆ ผมก็ตระหนักได้ว่า มรดกที่ใหญ่ที่สุดที่พ่อทิ้งไว้ก็คือ ครอบครัวของเรายากจน การเติบโตในครอบครัวเช่นนี้ เราจะเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น มีแรงผลักดันมากขึ้น และมีความกล้ามากขึ้นที่จะเอาชนะความยากลำบาก”
หลังจากสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาเวชศาสตร์และการฟื้นฟูสมรรถภาพในไทเป ไล่ก็ไปเรียนต่อแพทยสาสตร์ที่ไถหนาน
ขณะที่เขากำลังประสบความสำเร็จในอาชีพแพทย์ในไถหนานได้ไม่กี่ปี ในปี 1994 เจ้าหน้าที่พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) ในพื้นที่ก็เข้ามาหาเขา เพื่อขอให้แพทย์คนนี้ช่วยรณรงค์หาเสียงให้กับนักการเมือง DPP ในการเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งขณะนั้น พรรค DPP เพิ่งถือกำเนิดได้ไม่ถึง 10 ปี จากขบวนการประชาธิปไตยต่อต้านการปกครองแบบเผด็จการของพรรคก๊กมินตั๋ง (KMT)
ไล่เล่าว่า ขณะที่เขาเรียนอยู่ที่วิทยาลัยในไทเป เขาและเพื่อนร่วมห้องได้ติดตามข่าวอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับการปราบปรามผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยอย่างโหดร้ายของ KMT “ผมเต็มไปด้วยความสงสัยและความกังวลต่ออนาคตของประเทศนี้”
ไล่ตกลงที่จะช่วย DPP ในการเลือกตั้งท้องถิ่น แต่ในปีนั้นผู้สมัครก็พ่ายแพ้ แต่ 1 ปีต่อมา นักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยบางคนเชิญไล่ให้เข้าร่วม DPP เพื่อลงสมัครรับตำแหน่งสภานิติบัญญัติ
ในตอนแรกเขาปฏิเสธแนวคิดนี้ “ผมเกิดและเติบโตในชนบทที่ยากจน และผมอยากเป็นแพทย์มาโดยตลอด ในที่สุดผมก็มาไกลขนาดนี้ในการเป็นแพทย์แล้ว”
แต่ในปี 1996 วิกฤตได้ปะทุขึ้นในช่องแคบไต้หวัน จากการที่จีนจัดการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงและยิงขีปนาวุธมาทางไต้หวัน และนั่นเองที่ทำให้ความตั้งใจของไล่เปลี่ยนไป
“แทนที่จะวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลจากคลินิกของผม จะดีกว่าไหมถ้าออกมาอยู่ในแนวหน้าของขบวนการประชาธิปไตยและทำอะไรบางอย่างเพื่อไต้หวันจริง ๆ … ผมยังคิดด้วยว่า ในชีวิตนี้ หากผมสามารถหาโครงการที่ทำให้ผมหลงใหลในการเริ่มต้นได้ มันคงจะเป็นชีวิตที่คุ้มค่าที่จะใช้” ไล่กล่าว
เขาจึงแขวนเสื้อกาวน์เพื่อลงสมัครรับตำแหน่งทางการเมือง โดยเริ่มจากการเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติปี 1999-2010 จากนั้นเป็นนายกเทศมนตรีเมืองไถหนาน 2 สมัย 2010-2017 ก่อนที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในปี 2017-2019 และนับตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา ก็ได้เป็นรองประธานาธิบดีไต้หวัน
และในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 13 ม.ค. ที่ผ่านมา ไล่ก็ทำลายอาถรรพ์ผู้นำ 8 ปีของไต้หวันได้สำเร็จ ด้วยการเป็นผู้นำจากพรรค DPP สมัยที่ 3 (ที่ผ่านมาไต้หวันมีผู้นำจากพรรคเดิมติดต่อกันสูงสุดเพียง 2 สมัยเท่านั้น)
ไล่ ชิงเต๋อ ซึ่งปัจจุบันอายุ 64 ปี กล่าวกับผู้สนับสนุนหลังชนะการเลือกตั้งว่า “การเลือกตั้งครั้งนี้ได้แสดงให้โลกเห็นถึงความมุ่งมั่นของชาวไต้หวันต่อระบอบประชาธิปไตย ซึ่งผมหวังว่าจีนจะเข้าใจ”
ไล่ ซึ่งเผชิญกับความโกรธเกรี้ยวของจีนแผ่นดินใหญ่มาโดยตลอด จากการที่เขาเคยสื่อสารทำนองเรียกร้องอธิปไตยของไต้หวัน กล่าวในฐานะประธานาธิบดีว่า เขามี “ความรับผิดชอบที่สำคัญในการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน” โดยให้คำมั่นที่จะดำเนินการเจรจากับจีนภายใต้หลักการแห่งศักดิ์ศรีและความเท่าเทียมกัน
เรียบเรียงจาก CNN
พยากรณ์อากาศล่วงหน้า เตือนฝนถล่ม ก่อนกลับมาหนาวอีกรอบ
อัปเดตเอลนีโญใกล้จบ ไทยร้อนเร็ว-ร้อนหนัก แนะเตรียมเงินจ่ายค่าแอร์
เปิดสถิติหวยออกงวดวันที่ 17 มกราคม หวยวันครู ย้อนหลัง 15 ปี