ในยุคสมัยที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) กำลังได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนมีความสามารถมากขึ้นเรื่อย ๆ สิ่งที่เพิ่มขึ้นตามมาคือความกังวลว่าตลาดแรงงานในสายวิชาชีพต่าง ๆ จะได้รับผลกระทบจากปัญหา “เอไอแย่งงานมนุษย์”
หนึ่งในอุตสาหกรรมที่กำลังถูกเอไอรุกล้ำพื้นที่เข้ามาคือ “อุตสาหกรรมบันเทิง” โดยเฉพาะอาชีพ “นักเขียนบท” ที่ทุกวันนี้เอไอสามารถออกแบบโครงเรื่อง ตัวละคร และบทพูด ได้อย่างสบาย ๆ
ประกอบกับนักเขียนบทที่เป็นมนุษย์ในปัจจุบันกำลังประสบกับปัญหาขาดรายได้ เพราะแต่เดิมนั้นคนเขียนบทหรือนักแสดงจะได้รับค่าจ้างล่วงหน้าสำหรับภาพยนต์ที่นำไปฉาย และจะได้รับส่วนแบ่งอีกครั้งจากภาพยนต์ที่พวกเขาเขียนหรือแสดงไว้ หากถูกนำไปรีรันฉายตามช่องโทรทัศน์ต่าง ๆ
แต่เพราะการเข้ามาของบริการสตรีมมิ่งต่าง ๆ ที่ลงทุนจ่ายเงินเพียงครั้งเดียวและนำภาพยนตร์นั้น ๆ เข้าสู่แพลตฟอร์มที่ตัวเองเป็นผู้ให้บริการ เช่น Netflix, Amazon Prime หรือ Disney plus ทำให้เหล่านักเขียนหรือนักแสดงบางส่วนขาดรายได้ที่เป็นส่วนแบ่งสำหรับการรีรันไป
ด้วยทั้งการเข้ามาของเอไอและส่วนแบ่งรายได้ที่หายไป ทำให้คนในอุตสาหกรรมบันเทิง โดยเฉพาะในฮอลลีวูด ทนไม่ไหวอีกต่อไป และกลายเป็นการออกมาประท้วงเรียกร้องหาความชอบธรรม
Netflix จ้างทีมดูแลเอไอ เมินประท้วงต่อต้านปัญญาประดิษฐ์ในฮอลลีวูด
ครั้งแรก! หุ่นยนต์เอไอร่วมแถลงข่าว ยันไม่คิดก่อกบฏ-แย่งงานมนุษย์
ผู้เชี่ยวชาญเตือน เอไออาจนำไปสู่ “การสูญพันธุ์” ของมนุษยชาติ
เหตุการณ์การประท้วงในฮอลลีวูดเริ่มครั้งแรกเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ที่ผ่านมาโดยมีสาเหตุมาจาก การเจรจาที่ไม่ลงรอยและไม่บรรลุผลเกี่ยวกับสัญญาจ้างภาพยนตร์ชุดใหม่ที่จะหมดอายุในวันที่ 1 พฤษภาคม จึงทำให้เหล่านักแสดงและนักเขียนหรือผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับการผลิตสื่อ ได้เริ่มเคลื่อนไหวและออกมาประท้วง
โดยผู้ที่ออกมาประท้วงนั้นถูกแบ่งได้เป็น 3 ฝ่าย คือ
– SAG-AFTRA สมาคมนักแสดงภาพยนตร์และโทรทัศน์และสหพันธ์ศิลปินโทรทัศน์และวิทยุแห่งอเมริกา เป็นกลุ่มที่เป็นตัวแทนของกลุ่มนักแสดง ทั้งนักแสดงแนวหน้าที่มีชื่อเสียงไปจนถึงสตันท์แมน ตลอดจนผู้ประสานงาน นักพากย์เสียง และนักแสดงประกอบ รวม ๆ แล้วมีสมาชิกมากกว่า 160,000 คน
– WGA (Writers Guild of America) กลุ่มที่เป็นตัวแทนของนักเขียนในวงการภาพยนตร์ โทรทัศน์ วิทยุ และออนไลน์
– AMPTP (Alliance of Motion Picture and Television Producers) เป็นตัวแทนของสตูดิโอภาพยนตร์รายใหญ่และสถานีโทรทัศน์ของอเมริกา เช่น Fox และ NBC และผู้ให้บริการสตรีมมิ่งอย่างเช่น Netflix หรือ Amazon Prime
วัตถุประสงค์ของการออกมาประท้วงครั้งนี้คือ การเรียกร้องค่าจ้างที่เป็นธรรม รวมถึงต่อต้านการเข้ามามีส่วนร่วมของเอไอ ทั้งในด้านของการแสดงและเทคนิคต่าง ๆ เพราะพันธมิตรผู้ผลิตภาพยนตร์และโทรทัศน์ (AMPTP) ได้ยื่นข้อเสนอให้ใช้เอไอสร้างใบหน้าเลียนแบบนักแสดงและจ่ายค่าจ้างเพียงหนึ่งวัน แต่พวกเขาจะเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ใบหน้าและเสียงนั้นไปตลอด
ทาง SAG มองว่า ข้อเสนอดังกล่าวไม่ยุติธรรมอย่างยิ่ง จึงได้มีการออกมาเรียกร้อง ทำให้ทีมงานฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสื่อตกลงนัดหยุดงานครั้งใหญ่เพื่อประท้วง
ต่อมาในวันที่ 14 กรกฏาคม โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ออกมาสนับสนุนการประท้วงครั้งนี้ เนื่องจากมองว่า คนทำงานทุกคน รวมถึงนักแสดงฮอลลีวูด สมควรได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ที่เป็นธรรม และหวังว่าทุกฝ่ายสามารถบรรลุข้อตกลงที่เป็นประโยชน์ร่วมกันได้
ก่อนหน้านี้ ไบเดนก็ได้มีการสนับสนุนฝ่าย WGA ไปแล้วเมื่อเดือนพฤษภาคม และทางฝั่งนักแสดงเองก็ได้ร่วมการประท้วงและหยุดงานไปด้วย ส่งผลให้โปรเจกต์ใหญ่ของภาพยนตร์ต่าง ๆ ต้องชะงักและหยุดการถ่ายทำชั่วคราว
และเมื่อวันที่ 28 กรกฏาคม ที่ผ่านมา สัญญาณของการประท้วงเริ่มรุนแรงขึ้น เมื่อสตันท์แมนที่ชื่อ ไมค์ มาสซา (Mike Massa) ได้เดินขึ้นเวทีและประท้วงโดยการ “จุดไฟเผาตัวเอง” เป็นเวลา 18 วินาที โดยใช้เทคนิคเดียวกับการถ่ายทำของสตันท์แมน คือเสื้อผ้าและสารเคมีกันไฟแบบพิเศษ เพื่อความปลอดภัย
เขากล่าวว่า การแสดงผาดโผนในครั้งนี้เป็นการแสดงถึงเพื่อนร่วมอาชีพสตันท์แมนที่ต้องแสดงฉากผาดโผนแทนนักแสดงหลัก แต่บางครั้งกลับได้รับความไม่เป็นธรรมทั้งที่ต้องเสี่ยงชีวิตในการทำงาน
และในวันต่อมา Netflix ก็ได้ออกมาประกาศวา พวกเขายอมจ่ายเงินถึง 9 แสนดอลลาร์สหรัฐ (ราว 30.8 ล้านบาท) เพื่อจ้างบุคลากรและทีมงานมาดูแลเอไอและแมชชีนเลิร์นนิ่ง (คอมพิวเตอร์ที่เรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง) และคอยดูแลระบบอัลกอริทึมของเน็ตฟลิกซ์
แต่เดิมหน้าที่ในส่วนนี้เป็นการทำงานของพนักงานที่เป็นมนุษย์ ถึงแม้ Netflix จะไม่ได้ออกมาให้ความเห็นกับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ แต่ก็ได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า หน้าที่ในส่วนที่เป็นการใช้ความคิดสร้างสรรค์นั้นยังต้องใช้มนุษย์ในการทำงานอยู่ดีคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ทั้งนี้ การประท้วงของนักแสดงและนักเขียนบท รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ในขั้นตอนการทำงานของอุตสาหกรรมบันเทิง ยังไม่มีแนวโน้มจะยุติลง และอาจยืดเยื้อไปถึงสิ้นปีเลยก็เป็นได้
เรียบเรียงจาก Al Jazeera / BBC / Washington Post
ภาพจาก AFP